7 วิธียืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์
วิธียืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์
1. ควรดูแลขั้วแบตเตอรี่ให้สะอาดอยู่เสมอ
โดยการทาขั้วแบตเตอรี่ด้วยวาสลีนเพื่อป้องกันไม่ให้มีคราบขี้เกลือขึ้น แต่หากมีคราบขี้เกลือขึ้นที่ขั้วแบตเตอรี่แล้ว ก็มีวิธีทำความสะอาดง่ายๆ คือ ใช้น้ำร้อนราดทำความสะอาด
2. ตรวจสอบสภาพของแบตเตอรี่อยู่เสมอ
อย่าให้มีรอยแตกรอยร้าว เพราะจะทำให้แบตเตอรี่ไม่สามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้เท่าที่ควร
3. ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่รถยนต์
อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง อย่าปล่อยให้น้ำกลั่นแห้ง ควรเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับกลาง ๆ ระหว่างขีดสูงสุดและต่ำสุด แต่อย่าเติมให้เกินขีดสูงสุด
4. ควรตรวจเช็กระบบชาร์จไฟของอัลเตอร์เนเตอร์
เพื่อดูว่าระบบไฟชาร์จต่ำหรือสูงเกินไปหรือเปล่า ถ้าต่ำไปเราอาจมีประจุไฟไม่พอใช้ ทำให้มีปัญหาตอนสตาร์ตรถ หรือหากสูงไปจะทำให้น้ำกรดและน้ำกลั่นระเหย และเดือดเร็วเกินไป อาจจะทำให้มีปัญหาหม้อน้ำมีความร้อนสูงเกินไป
5. ควรตรวจสอบวัดระดับกระแสไฟฟ้าของแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ
เพื่อดูว่าแบตเตอรี่เสื่อมหรือมีปัญหาอื่น ๆ ในการเก็บประจุไฟฟ้าหรือไม่
6. หลีกเลี่ยงการใช้กระแสไฟมาก ๆ ในขณะที่อากาศเย็นจัด
หากรถยนต์ของคุณอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวมากและหนาวนาน อย่าลืมว่าประสิทธิภาพการกระจายของน้ำกรดและน้ำกลั่นจะลดลงด้วย ทางที่ดีควรจอดรถข้ามคืน ตอนเช้าควรจะสตาร์ตรถยนต์ทิ้งไว้สัก 5-10 นาทีเพื่ออุ่นเครื่อง ก็จะส่งผลที่ดีต่อของรถยนต์ของคุณมากกว่า
7. สำหรับแบตเตอรี่แห้ง
ตัวตาแมวของแบตเตอรี่จะเอาไว้ใช้ดูกำลังไฟ หากเป็นสีน้ำเงินเท่ากับว่าทุกอย่างปกติดี หากเปลี่ยนเป็นสีส้มหรือสีแดงหมายความว่าแบตเตอรี่มีปัญหา อาจจะต้องชาร์จไฟหรือเติมน้ำกลั่นเพิ่ม แต่ถ้าเป็นสีขาว แปลว่าแบตเตอรี่เสื่อมคุณภาพหรือเสีย ต้องเปลี่ยนลูกใหม่สถานเดียว
นอกจากนี้ การดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ยังทำได้อีกมากมาย เช่น หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ขณะตรวจเช็กแบตเตอรี่เป็นอันขาด เพราะอาจจะทำให้ระเบิดได้ หรือหากระบบไฟอ่อน หรือมีปัญหาตอนสตาร์ตเครื่อง อาจจะลองตรวจสอบไดชาร์จดู รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้น้ำกรดหรือน้ำกลั่นที่มีสารเคมีผสม อาจจะไปกัดตัวแบตเตอรี่ทำให้มีปัญหาได้
หากผู้ใช้รถหมั่นดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์เป็นประจำ ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่เพิ่มมากขึ้น สิ่งสำคัญคือการรู้จักสังเกตความผิดปกติ หรือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับรถหรือแบตเตอรี่ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาและซ่อมแซม