อายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์
อายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์
เคยสังเกตกันหรือไม่ว่าอายุแบตเตอรี่รถยนต์ใช้ได้กี่ปี เมื่อไรควรถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนใหม่หรือรอไปจนกว่าจะเกิดปัญหาสตาร์ตไม่ติดซึ่งอาจส่งผลเสียได้มากกว่าที่คิด
แบตเตอรี่ เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีความสำคัญต่อรถยนต์เป็นอย่างมาก โดยทำหน้าที่เป็นใจกลางสำคัญเริ่มต้นตั้งแต่การสตาร์ตเครื่องยนต์ ตลอดไปจนการจ่ายกระแสไฟฟ้าส่งต่อไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถทั้งหมด จึงทำให้ผู้ขับขี่ต้องหมั่นดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพราะ อายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ มีความแตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยการใช้งานที่หลากหลาย ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการหมั่นทำความเข้าใจแบตเตอรี่รถยนต์ของตัวเอง พร้อมการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีเพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น บทความนี้จะพามาดูกันว่า แบตเตอรี่รถยนต์ใช้ได้กี่ปี และอาการแบตเสื่อมเป็นอย่างไร
อายุแบตเตอรี่รถยนต์ใช้ได้กี่ปี เรื่องที่คนใช้รถต้องรู้ไม่ควรปล่อยเบลอหรือรอให้แบตเตอรี่หมดเมื่อไรค่อยเปลี่ยนอาจไม่ใช่วิธีที่ดีนัก เพราะนอกจากจะยุ่งยากเสียเวลาแล้วอาจเสี่ยงต่อความเสียหายของระบบไฟฟ้าในรถรุ่นใหม่ ๆ ค่อนข้างมากอีกด้วย
แล้วอายุแบตเตอรี่รถยนต์ใช้นานสุดกี่ปี ?
หากมีการดูแลอย่างเหมาะสม แบตเตอรี่รถยนต์อาจมีอายุการใช้งานได้นานกว่า 5 ปี หากคุณใช้รถยนต์ในแต่ละวันแบบปกติ แบตเตอรี่จะควรเปลี่ยนใหม่ในทุกๆ3ปี
ปัจจุบันแบตเตอรี่รถยนต์มีหลายแบบ ทั้งแบบน้ำ แบบกึ่งแห้งและแบบแห้ง ซึ่งมีอายุการใช้งานรวมถึงการดูแลรักษาต่างกัน
คงเป็นเรื่องยากถ้าจะให้พูดถึงว่า แบตเตอรี่รถยนต์อยู่ได้กี่ปี และอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ว่าสามารถใช้งานได้กี่ปี เพราะประกอบไปด้วยปัจจัยหลายอย่างที่มีผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ถึงแม้ว่าเราจะดูแลบำรุงรักษามากแค่ไหนแต่ก็ยังมีเรื่องนอกเหนือจากนี้ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น อุณหภูมิ และสภาพอากาศ ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วแบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป และมากที่สุดถึง 5 ปี
ส่วนแบตเตอรี่กึ่งแห้งหรือ Maintenance Free ต้องการการดูแลน้อยมาก ๆ แม้จะมีฝาเปิด-ปิดให้เติมน้ำกลั่นอยู่ อายุการใช้งานเฉลี่ยเหมือนแบบน้ำคือราว 2 ปี สูงสุดไม่เกิน 3 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รุ่นรถ การใช้งาน การดูแลรักษา
แต่ไม่ว่าจะดูแลรักษาแบตเตอรี่ดีอย่างไร เมื่อมีอายุการใช้งานมากขึ้น การกักเก็บพลังงานไฟฟ้าหรือประจุไฟฟ้าย่อมลดลงเป็นเรื่องปกติ จึงควรเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ลูกใหม่ตามระยะเวลา
สำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ชนิดแห้งที่มีราคาแพงกว่าสองชนิดแรกพอสมควรนั้นจะมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นและไม่ต้องคอยตรวจเช็กระดับน้ำกลั่นเลย เนื่องจากถูกซีลปิดสนิท มีเพียงรูระบายอากาศเล็ก ๆ กับตาแมวไว้ดูระดับไฟฟ้าของแบตเตอรี่ ซึ่งอยู่ได้ราว ๆ 5 ปี โดยประมาณหรืออาจมากกว่านั้น
อย่างไรก็ตามอายุแบตเตอรี่รถยนต์ใช้ได้กี่ปีนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวแบตเตอรี่เพียงปัจจัยเดียว แต่ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย โดยเฉพาะการดูแลรักษาและการใช้งาน หากปล่อยให้รถไฟหมดบ่อยครั้ง ไม่เติมน้ำกลั่น หรือรถไม่ค่อยได้ใช้งานเพื่อจะได้ชาร์จไฟจนเต็ม โอกาสที่แบตเตอรี่จะเสื่อมเร็วกว่ากำหนดย่อมเป็นไปได้เสมอ
ปัจจัยที่มีผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสำคัญที่มีผลทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ลดลง เช่น สภาพอากาศและอุณหภูมิ ที่หนาวจัดหรือร้อนจัด หากจอดรถเอาไว้เป็นเวลานานก็จะส่งผลทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพได้เร็ว เพราะแผ่นตะกั่วอาจเกิดตะกอนทำให้ไม่สามารถกักเก็บไฟได้ดี หรือความผิดปกติของระบบชาร์จไฟ ที่มีการปล่อยกระแสไฟฟ้าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยไปยังแบตเตอรี่ ส่งผลให้แบตเตอรี่รั่วไหลและไม่สามารถเก็บไฟได้แม้ขณะที่กำลังสตาร์ตเครื่องอยู่
สำหรับอายุการใช้งานของแบตเตอรี่นั้นไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่ากี่ปี เพราะมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่มีส่วนทำให้แบตเตอรี่เสื่อมและหมดเร็วขึ้น ดังนั้นผู้ขับขี่ควรหมั่นตรวจสอบการทำงานของแบตเตอรี่อยู่เสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น รวมทั้งยังเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจตามมาจากการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่
ผู้ใช้รถควรตรวจสอบเป็นระยะหรือหมั่นสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับระบบไฟ เช่น ระบบแสงสว่างลดลง สตาร์ตยากขึ้น ควบคู่กันไป หากพบความผิดปกติควรตรวจสอบแบตเตอรี่ เพื่อป้องกันปัญหาตามมา ทั้งยุ่งยาก หรือในบางครั้งเสี่ยงกระทบถึงระบบไฟฟ้า โดยเฉพาะรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีอุปกรณ์ควบคุมด้วยไฟฟ้าเป็นจำนวนมากอาจสามารถเกิดความเสียหายได้อย่างคาดไม่ถึง